วิธี ปลูก ผัก คะน้า ฮ่องกง

วิธีปลูกผักคะน้าฮ่องกงหนากรอบความ 5 ตลาดแปรทางโภชนาการกลาย

Click to rate this post!
[Total: 2 Average: 5]

วิธีปลูกผักคะน้าฮ่องกง ให้เจริญเติบโตดี ต้นอวบ ใบเขียวเข้ม พร้อมเทคนิคมืออาชีพ

ผักคะน้าฮ่องกง หรือที่รู้จักกันว่า “คะน้าใบใหญ่ ลำต้นหนา กรอบ ไม่ขม” ถือเป็นพืชผักที่มีความต้องการสูงในตลาดทั้งสดและแปรรูป ด้วยรสชาติอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการที่สูง จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ วิธีปลูกผักคะน้าฮ่องกงแบบมืออาชีพ ตั้งแต่การเตรียมแปลง การเพาะเมล็ด การดูแลรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด


1. เลือกเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี

เริ่มต้นจากการเลือก “เมล็ดพันธุ์คะน้าฮ่องกง” ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน เช่น กรมวิชาการเกษตร หรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น เจียไต๋ หรือ ศรแดง เพื่อให้ได้ต้นกล้าที่แข็งแรง โตเร็ว และต้านทานโรคได้ดี

เคล็ดลับ: เลือกเมล็ดพันธุ์รุ่น F1 เพื่อความสม่ำเสมอของผลผลิต


2. การเตรียมดินและแปลงปลูก

  • ดินควรเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี

  • pH ดินควรอยู่ที่ 6.0 – 6.5

  • ขุดพรวนดินลึกประมาณ 30 ซม. และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1 ตัน/ไร่

Tip: โรยปูนขาวบางๆ เพื่อปรับสภาพดินก่อนปลูกประมาณ 1 สัปดาห์


3. การเพาะกล้า

  1. เตรียมถาดเพาะหรือแปลงกล้า

  2. หยอดเมล็ดลึกประมาณ 0.5 ซม. แล้วกลบด้วยดินบางๆ

  3. รดน้ำให้ชุ่มวันละ 1-2 ครั้ง

  4. เมื่อต้นกล้าอายุ 15-20 วัน และมีใบจริง 2-3 ใบ จึงย้ายลงแปลงปลูก


4. การย้ายปลูกและระยะปลูกที่เหมาะสม

  • ระยะปลูก: ระหว่างต้น 25 ซม. ระหว่างแถว 30 ซม.

  • เวลาปลูกที่ดีที่สุด: ช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน

  • หลังปลูกให้รดน้ำทันที และรดวันละ 2 ครั้งในช่วง 1 สัปดาห์แรก


5. การดูแลและใส่ปุ๋ย

  • ปุ๋ยรองพื้น: ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-8

  • หลังย้ายปลูก 7 วัน: ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) หรือ ปุ๋ยเกล็ดเสริมไนโตรเจนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ

  • ฉีดพ่นธาตุอาหารเสริม เช่น แคลเซียม โบรอน เพื่อป้องกันอาการขาดธาตุ

ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยในช่วงแดดจัด


6. การให้น้ำและการจัดการศัตรูพืช

  • ให้น้ำวันละ 1-2 ครั้ง สม่ำเสมอ

  • เฝ้าระวัง หนอนกระทู้ เพลี้ยไฟ และ โรคราน้ำค้าง

  • ใช้ชีวภัณฑ์ เช่น บาซิลลัส ทูริงเยนซิส (BT) และ เชื้อไตรโคเดอร์มา เพื่อควบคุมโรคและแมลงอย่างปลอดภัย


7. การเก็บเกี่ยว

  • เก็บเกี่ยวเมื่ออายุประมาณ 40-45 วัน หลังย้ายปลูก

  • ใช้มีดคมตัดบริเวณโคนต้น

  • แนะนำให้เก็บในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อรักษาความสด


🔗 แหล่งข้อมูลที่แนะนำ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผักคะน้าและการจัดการดินได้จากเว็บไซต์ กรมส่งเสริมการเกษตร www.doae.go.th


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผักคะน้าฮ่องกง

Q: คะน้าฮ่องกงกับคะน้าธรรมดาต่างกันอย่างไร?

A: คะน้าฮ่องกงมีลำต้นใหญ่ ใบหนา และไม่ขมเหมือนคะน้าทั่วไป เหมาะสำหรับผัด ทอด หรือลวกในเมนูระดับภัตตาคาร

Q: ต้องใช้สารเคมีในการปลูกไหม?

A: ไม่จำเป็น หากใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมโรคแมลงอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถปลูกแบบปลอดสารได้อย่างปลอดภัย

Q: ฤดูไหนปลูกดีที่สุด?

A: คะน้าฮ่องกงสามารถปลูกได้ตลอดปี แต่ ช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) จะให้ผลผลิตที่ดีที่สุด

บทความจากเว็บ: BLOG.รับทำบัญชี.COM
อ่านบทความทั้งหมด: วิธีปลูกผักคะน้าฮ่องกง

จำนวนคอมเมนต์ของโพสต์ ID 718: 28