
🌱 รู้จักกับ “มะเขือม่วง” พืชผักมากประโยชน์
มะเขือม่วง (Solanum melongena) เป็นพืชผักตระกูลเดียวกับมะเขือเทศและมันฝรั่ง มีลักษณะเด่นคือ ผลยาว สีม่วงเข้ม เปลือกบาง เนื้อนุ่ม นิยมใช้ทำอาหารไทยและต่างชาติ เช่น ผัดมะเขือ ยำมะเขือ หรืออบชีสแบบอิตาเลียน
การปลูกมะเขือม่วงจึงนับว่าเป็น โอกาสทางการเกษตรที่ดีเยี่ยม สำหรับผู้เริ่มต้นทำสวนหรือเกษตรเชิงพาณิชย์ เพราะใช้พื้นที่น้อย ปลูกได้ทั้งในกระถางและแปลงดิน
📌 วิธีปลูกมะเขือม่วง ทีละขั้นตอน
1. เลือกพันธุ์มะเขือม่วงคุณภาพ
-
พันธุ์ยอดนิยม: Black Beauty, Long Purple, Thai Purple
-
เลือกพันธุ์ที่ ต้านทานโรคดี เจริญเติบโตไว
2. เตรียมดินให้เหมาะสม
-
ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง
-
ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ควรอยู่ที่ 5.5 – 7.0
-
ไถพรวนดินลึกประมาณ 30 ซม. ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
3. การเพาะกล้า
-
หยอดเมล็ดในถาดเพาะ/ถุงเพาะ ใช้ดินผสมร่วนซุย
-
วางในที่ร่ม รดน้ำเช้า-เย็น ประมาณ 7-10 วันจึงงอก
4. ย้ายปลูกลงแปลงหรือกระถาง
-
เว้นระยะปลูก 60 x 60 ซม.
-
ขุดหลุมลึก 10 ซม. ใส่ปุ๋ยรองพื้นเล็กน้อยก่อนปลูก
-
รดน้ำให้ชุ่มทุกวันในช่วงแรก
5. การดูแลรักษา
-
รดน้ำวันละ 1-2 ครั้งในช่วงเช้า/เย็น
-
ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ทุก 15 วัน
-
พรวนดิน กำจัดวัชพืชรอบต้นทุกสัปดาห์
-
ตัดแต่งใบเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดความชื้นสะสม
6. ป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช
-
ศัตรูพบบ่อย: เพลี้ยไฟ, หนอนเจาะผล, ราแป้ง
-
ใช้ ชีวภัณฑ์หรือสารอินทรีย์ เช่น น้ำส้มควันไม้ สะเดา
-
หากรุนแรง ใช้สารเคมีอย่างมีความรับผิดชอบตามคำแนะนำกรมวิชาการเกษตร
7. การเก็บเกี่ยวผลผลิต
-
ใช้เวลา 60–75 วัน หลังปลูก
-
เก็บผลที่มี ผิวมัน สีม่วงเข้ม เนื้อแน่น
-
ควรใช้กรรไกรตัดเพื่อรักษาก้านติดผล
📌 เทคนิคเพิ่มผลผลิตให้มะเขือม่วง
-
หมั่น เด็ดดอกแรก ทิ้ง เพื่อกระตุ้นการแตกดอกชุดถัดไป
-
ใช้ ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ เสริมทุก 7 วัน
-
คลุมโคนต้นด้วยฟางหรือหญ้าแห้งรักษาความชื้นในดิน
🌿 ข้อควรระวังในการปลูกมะเขือม่วง
-
อย่าให้น้ำขัง เพราะรากจะเน่า
-
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเกินไปในช่วงเพาะกล้า
-
ควรปลูกในฤดูฝนต้นฤดู หรือปลายฝนต้นหนาว
🔗 แหล่งข้อมูลทางการเกษตร
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
❓ คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: มะเขือม่วงปลูกได้ตลอดปีไหม?
A: ได้ แต่ช่วงเหมาะสมที่สุดคือ ปลายฝนถึงต้นหนาว เพื่อหลีกเลี่ยงเพลี้ยและโรคจากความชื้นสะสม
Q: ปลูกในกระถางจะให้ผลผลิตดีหรือไม่?
A: ได้ผลผลิตดีหากดูแลดี ใช้กระถางขนาด 30 ซม. ขึ้นไป และมีการระบายน้ำดี
Q: ต้องใช้สารเคมีในการดูแลหรือไม่?
A: หากดูแลดีด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น น้ำหมักชีวภาพและการตัดแต่งต้น ก็สามารถเลี่ยงสารเคมีได้













