
ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง กี่ปี? เจาะลึกภาษี-บัญชี พร้อมแนวทางบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ
การวางแผน ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง ถือเป็นหัวใจสำคัญทั้งในด้าน บัญชี และ ภาษี เพราะส่งผลต่อ กำไรสุทธิ และ ภาระภาษีธุรกิจ หากคุณกำลังสงสัยว่า “ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้างต้องคิดกี่ปี?” บทความนี้มีคำตอบอย่างละเอียด พร้อมแนวทางที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ ประหยัดภาษีและวางแผนการเงินอย่างมืออาชีพ
🔎 สิ่งปลูกสร้าง คืออะไร?
สิ่งปลูกสร้าง หมายถึง อาคาร โรงงาน สิ่งก่อสร้างถาวร ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน เช่น
-
อาคารสำนักงาน
-
โรงงาน
-
โกดังเก็บของ
-
คลังสินค้า
-
อาคารพาณิชย์
ทั้งหมดนี้ต้องมีการ คิดค่าเสื่อมราคา เพื่อบันทึกในบัญชีและใช้ในการคำนวณภาษี
📘 ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง กี่ปี ตามมาตรฐาน?
ตาม พระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 145 (พ.ศ. 2527) ออกตาม ประมวลรัษฎากร
สิ่งปลูกสร้างต้องหักค่าเสื่อมราคาภายในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี โดยใช้อัตรา เส้นตรง เฉลี่ยปีละ 5% ของมูลค่าทุน
✳️ ตัวอย่าง: อาคารสำนักงานมูลค่า 10,000,000 บาท
หักค่าเสื่อมราคาได้ปีละ 500,000 บาท × 20 ปี
✅ สำคัญ: ค่าเสื่อมนี้ไม่รวม “ค่าที่ดิน” เพราะที่ดินไม่มีการเสื่อมสภาพตามบัญชี
🧾 การลงบัญชีและประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้
การลงบัญชี ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง
-
ช่วยสะท้อนมูลค่าทรัพย์สินตามจริง
-
ลดภาระภาษีเงินได้นิติบุคคล
-
ใช้เป็นเครื่องมือ วางแผนภาษี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพ ต้นทุนแท้จริง ของทรัพย์สินแต่ละประเภท
🛠 เทคนิคการจัดการค่าเสื่อมแบบมืออาชีพ
-
แยกมูลค่าที่ดินออกจากสิ่งปลูกสร้าง ชัดเจน
-
จัดทำทะเบียนทรัพย์สิน (Fixed Asset Register)
-
วางแผนลงทุนให้สัมพันธ์กับรายได้
-
ใช้ซอฟต์แวร์บัญชีที่รองรับการคำนวณอัตโนมัติ
🔗 ข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานราชการ
อ่านรายละเอียดพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาได้ที่ เว็บไซต์กรมสรรพากร
(แนะนำค้นหาคำว่า “ค่าเสื่อมราคาตามประมวลรัษฎากร”)
📚 ลิงก์แนะนำ:
👉 อ่านบทความบัญชีธุรกิจเพิ่มเติมที่นี่
❓Q&A ที่พบบ่อย
Q: ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้างใช้ได้ทุกแบบไหม?
A: ไม่ใช่ทุกสิ่งปลูกสร้างจะใช้ระยะเวลา 20 ปี บางประเภทเช่น อาคารชั่วคราว อาจใช้ระยะเวลาสั้นกว่านี้ หากได้รับอนุมัติจากกรมสรรพากร
Q: หักค่าเสื่อมราคาทั้งก้อนเลยได้ไหม?
A: ไม่สามารถหักทั้งก้อนในปีเดียวได้ ต้องทยอยตามอายุการใช้งานตามที่กฎหมายกำหนด
Q: ถ้าไม่ได้บันทึกค่าเสื่อมราคาจะผิดไหม?
A: อาจไม่ผิดในมุมบัญชีภาษีแต่จะทำให้ผลกำไรสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น และทำให้จ่ายภาษีมากกว่าที่ควร














