
สิ่งที่ทำให้ตัวร้อน: สาเหตุ อาการ และวิธีดูแลเบื้องต้น
“ตัวร้อน” ไม่ใช่แค่ไข้ แต่เป็น สัญญาณเตือน สุขภาพที่ควรใส่ใจ เพราะอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งภายในและภายนอก หากละเลยอาจนำไปสู่ ภาวะแทรกซ้อน ที่อันตรายได้
🔥 สิ่งที่ทำให้ตัวร้อนมีอะไรบ้าง?
1. การติดเชื้อ
ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือ การติดเชื้อไวรัส/แบคทีเรีย มักทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการเพิ่มอุณหภูมิเพื่อกำจัดเชื้อ
ตัวอย่างเช่น: ไข้เด็งกี ไข้เลือดออก หรือโควิด-19
2. ร่างกายอักเสบภายใน
หากมีแผลติดเชื้อ หรือ อวัยวะอักเสบ เช่น ต่อมทอนซิล ปอด หรือทางเดินปัสสาวะ อาจมีไข้ร่วมด้วย
3. ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
โรคภูมิแพ้ตัวเอง (Autoimmune disease) เช่น SLE, ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ก็ทำให้เกิดไข้เรื้อรังได้
4. ผลข้างเคียงจากยา
ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยากันชัก หรือวัคซีน อาจทำให้ตัวร้อนได้ในบางราย
5. สภาวะร้อนจากสิ่งแวดล้อม
การอยู่กลางแดดจัดหรือในห้องอบร้อนนานเกินไป เช่น ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ก่อให้เกิดภาวะตัวร้อนโดยไม่เกี่ยวกับเชื้อโรค
6. ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะในผู้หญิงช่วงมีประจำเดือนหรือวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนแปรปรวนอาจทำให้รู้สึกตัวร้อน หรือวูบวาบเป็นระยะ
🧭 วิธีสังเกตและดูแลเมื่อรู้สึก “ตัวร้อน”
💡 คำแนะนำ: ใช้ปรอทวัดไข้ หากอุณหภูมิเกิน 38°C และไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ควรพบแพทย์
✅ วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตัวร้อนบ่อย
-
ล้างมือบ่อยๆ ลดความเสี่ยงติดเชื้อ
-
พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด
-
ดื่มน้ำวันละ 6–8 แก้ว เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล
-
ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจหาโรคแฝง
🔗 แหล่งข้อมูลทางการจากหน่วยงานราชการไทย
สามารถดูคำแนะนำเพิ่มเติมได้จาก
👉 เว็บไซต์กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
❓Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะตัวร้อน
Q: ตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ เป็นอะไรไหม?
A: อาจเกิดจากความเครียด อารมณ์แปรปรวน หรือภาวะก่อนมีประจำเดือน ควรสังเกตอาการร่วมอื่นๆ
Q: ตัวร้อนนานเกิน 3 วัน อันตรายไหม?
A: ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหา สาเหตุภายใน เช่น การติดเชื้อหรือโรคเรื้อรัง
Q: เด็กเล็กตัวร้อน ทำอย่างไรดี?
A: รีบวัดไข้ ถ้าเกิน 38.5°C ใช้ยาลดไข้สำหรับเด็กและประคบร่วม หากไม่ดีขึ้นใน 24 ชม. ควรพบแพทย์ทันที
หากคุณมีอาการ “ตัวร้อน” อย่าละเลย! สัญญาณเล็กๆ อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้หากไม่ดูแลให้ดีตั้งแต่ต้น 💡

















